ความสุขใต้ร่มไม้ของป้าแอ๊ด ทิพวัน ถือคำ

ความสุขใต้ร่มไม้
ปี 2567 นี้ “ป้าแอ๊ด” (คุณทิพวัน ถือคำ) กำลังจะมีอายุขึ้นเลขเจ็ด ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวของการเป็นผู้สูงอายุแบบเต็มขั้น ใครที่เคยได้พบเจอ หรือรู้จักป้าแอ๊ด จะยังสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความอ่อนเยาว์ สดใส ที่สะท้อนออกมาจากรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความสุข สงบ และเย็น
 
สมัยเด็กๆ ป้าแอ๊ดก็เคยเป็นหนูน้อยที่รักการปีนต้นไม้ ชอบปีนไปเก็บผลไม้ จึงเกิดความรักผูกพันกับธรรมชาติอย่างไม่รู้ตัว และเมื่อถึงวัยทำงานรับราชการเป็นครู ก็ยังเลือกที่จะทำงานด้านสิ่งแวดล้อมมาตลอด จึงไม่น่าแปลกใจที่หลังเกษียณ ป้าแอ๊ดจะเลือกใช้ชีวิตอยู่ในต่างจังหวัดมากกว่าอยู่ในเมือง “เราชอบบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ..อยู่บ้านแล้วมันปลอดโปร่ง ไม่วุ่นวาย ป้าแอ๊ดพูดถึงเหตุผลของการเลือกมาอยู่บ้านที่หนองขาว กาญจนบุรี และ ที่นี่เองคือจุดเริ่มต้นของ..โฮมสเตย์บ้านกลางป่า..ซึ่งเป็น ศูนย์เรียนรู้เรื่องการอาบป่า แห่งแรกของประเทศไทย
 
ป้าแอ๊ดกลับมาใช้ชีวิตกับธรรมชาติอย่างจริงจังตั้งแต่อายุห้าสิบปี เราจึงอยากรู้ว่าป้าแอ๊ดคิดว่า..ต้นไม้และธรรมชาติดียังไง ?
“ป้าเคยมีปัญหาเรื่องภูมิแพ้ในร่างกาย ซึ่งเราแพ้มากมายหลายชนิด ต้องฉีดยาทุกอาทิตย์ แต่พอเราเข้ามาอยู่ในธรรมชาติ จากที่เคยนอนแล้วแน่นจมูกไปหมด เรารู้สึกว่าปลอดโปร่ง ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อก่อนเวลาพูดโทรศัพท์ คนก็จะบอกว่าเสียงอู้อี้ เป็นหวัดรึเปล่า ตอนนี้เสียงใสชัดเจน โดยไม่เคยต้องใช้ยาอะไร ตอนนี้ ถ้าเจ็บป่วยนิดหน่อยก็มีแค่ฟ้าทลายโจรอย่างเดียวที่ป้าใช้ จากที่เคยกินยาเป็นกำๆ นะคะ คิดว่าธรรมชาติช่วย คือ ธรรมชาติ ทำให้ป้าไม่เครียดกับเรื่องอะไรทั้งนั้น มีความสุขกับต้นไม้ ดูแลต้นไม้ต้นนี้ ได้ปลูกต้นนั้น ได้เก็บผัก ได้เก็บแตงกวา ได้เก็บถั่วฝักยาวจากต้นที่เราปลูก แล้วเอามากินเอง เรามีความรู้สึกว่า มันดีทั้งกายและใจ”
 
ต้นไม้ในดวงใจ..ของป้าแอ๊ด
ต้นไม้ที่ยืนหนึ่งในใจของป้าแอ๊ดคือ ต้นแจง “แจง..เป็นต้นไม้ที่คนส่วนมากไม่ค่อยได้เจอ เพราะมันเป็นต้นไม้โบราณ แจงหนึ่งต้นเนี่ยสามารถดูแลให้ความร่มเย็นให้วัวได้เป็นฝูงนะ ป้ารักแจง เพราะว่า แจงมีลูกสวย ลูกสีเหลือง แล้วก็เขาจะเขียวชอุ่มทุกหน้า ในหน้าร้อนเนี่ยจะเห็นเขาชัดมากเลย เรามีความรู้สึกว่าต้นแจงนี่ดีมาก เรามีโต๊ะ เก้าอี้ นั่งใต้ต้นแจง เรามีที่นั่งคุย เพราะว่ามันร่ม ต้นแจงเนี่ย..ทำให้ป้าคิดถึงการอยู่ร่วมกันของมนุษย์กับธรรมชาติ เรากับธรรมชาติอยู่ด้วยกันตั้งแต่นานแล้ว…”
 
สงกรานต์นี้ป้าแอ๊ดอยากไปเที่ยวไหม
ในวัยที่ผ่านสงกรานต์มานับครั้งไม่ถ้วน ป้าแอ๊ดเลือกที่จะหลบร้อนและความวุ่นวาย อยู่ที่บ้าน อยู่ท่ามกลางป่า และธรรมชาติที่ป้ารัก “ป้าคิดว่า..ป่ามันมีชีวิต ป่ามีพร้อมทุกอย่าง ในความรู้สึกของป้าคือ ไม่ต้องไปหาอะไรละ เสียงเพลงธรรมชาติก็มี ความเย็นแอร์คอนดิชั่นเนี่ย ก็คือความเย็นของป่าก็มีให้เรา ความสงบก็มีให้เรา มีเวลาที่จะนั่งนิ่งๆอยู่กับใจ เป็นที่นั่งสมาธิ เป็นที่พักใจ ธรรมชาติ..ในความรู้สึกของป้าก็คือสิ่งที่มันวิเศษสุด สำหรับกายและใจของเราค่ะ…”
 
หลังคุยกับจบ เราสรุปได้แทบจะทันทีว่า สำหรับป้าแอ๊ด ‘ความสุข’ไม่ได้อยู่ไกล และ ไม่ต้องออกไปไขว่คว้าที่ไหน แต่อยู่ที่นี่..ใต้ร่มไม้ นี่เอง